อันดับ | ทีม | นัด | ชนะ | เสมอ | แพ้ | แต้ม |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด | 21 | 13 | 7 | 1 | 46 |
2 | ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด | 20 | 12 | 6 | 2 | 42 |
3 | การท่าเรือ เอฟซี | 21 | 12 | 5 | 4 | 41 |
ไทยลีก | |||
---|---|---|---|
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ประจวบคีรีขันธ์ เอฟซี
|
-
-
|
||
บางกอกกล๊าส เอฟซี
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
|
-
-
|
||
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
|
-
-
|
ไทยลีกคัพ | |||
---|---|---|---|
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
3
อุทัยธานี ฟอเรสท์
1 6
|
2
2
|
เสมอ
|
|
ไทยลีก | |||
ชลบุรี เอฟซี
2
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
2
|
1
1
|
เสมอ
|
|
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
1
ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
6
|
3
2
|
ชนะ
|
|
มูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ | |||
บางกอก เอฟซี
4
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
2
|
5
4
|
แพ้
|
|
ไทยลีก | |||
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
โปลิศ เทโร เอฟซี
2
|
6
2
|
ชนะ
|
|
ตราด เอฟซี
3
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
2
|
3
4
|
ชนะ
|
|
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
1
สุโขทัย เอฟซี
1 1
|
4
0
|
ชนะ
|
- เมือง: Buriram United
- สนามบอล: Buriram City Stadium
- ความจุ: 32600
- โค้ช: Arthur Papas
- อายุเฉลี่ย: 25.4
ประวัติสโมสร
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กำเนิดขึ้นจากการรวมตัวกันของสุดยอดทีมฟุตบอล 2 ทีม ของจังหวัดบุรีรัมย์ การรวมตัวกันของ บุรีรัมย์ พีอีเอ แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2554ที่ทำคะแนนสูงสุดเป็นสถิติที่ไม่มีใครลบได้ กับ บุรีรัมย์ เอฟซี แชมป์ดิวิชั่น 1ปี 2554ที่เป็นตำนานความยิ่งใหญ่ของชาวบุรีรัมย์ ก่อให้เกิดเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สุดยอดทีมฟุตบอลของประเทศไทย ทีมฟุตบอลที่สร้างประวัติ ศาสตร์ทีมแรกและทีมเดียวของประเทศ ไทย ที่คว้าแชมป์ 4รายการ ใน ฤดูกาลเดียวกัน
2 ปีของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จมากมาย คว้าแชมป์มาแล้ว 8 แชมป์
* แชมป์ ถ้วยพระราชทาน ก. 2556
* แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2556
* แชมป์ลีกคัพ 2556
* แชมป์เอฟเอคัพ 2556
* แชมป์พรีเมียร์คัพ 2555
* แชมป์ลีกคัพ 2555
* แชมป์เอฟเอคัพ 2555
* แชมป์ ถ้วยพระราชทาน ก. 2557
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นเจ้าของสถิติแชมป์มากที่สุดที่ไม่เคยมีสโมสรใดในประเทศไทย ทำได้มาก่อน
เมื่อรวมกับอีก 3 แชมป์ คือ แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก แชมป์เอฟเอคัพ และแชมป์ลีกคัพ ประจำปี 2554 ในนาม บุรีรัมย์ พีอีเอ ก็เท่ากับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์มาครอบครองแล้ว 11 แชมป์ ภายในเวลา 4 ปี ซึ่งเป็นสถิติที่ไม่เคยมีสโมสรฟุตบอลใดในประเทศไทย ทำได้
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรฟุตบอลไทยสโมสรเดียวที่ได้สิทธิเข้าแข่งขันรายการเอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ ลีก 3 ปีติดต่อกัน และได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 10 ทีมฟุตบอลที่ดีที่สุดในเอเชีย ด้วยผลงานการเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย เป็นสถิติที่ดีที่สุดของสโมสรฟุตบอลจากประเทศไทย ในรายการนี้
สนาม
นิว ไอ-โมบาย สเตเดียม หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า ธันเดอร์ คาสเซิล สเตเดียม (อังกฤษ: New i-Mobile Stadium, Thunder Castle Stadium, Buriram Stadium) เป็นสนามกีฬาที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตั้งอยู่ที่ตำบลอิสาณ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ สนามแห่งนี้มีความจุ 24,000 ที่นั่ง โครงสร้างประกอบด้วยเหล็กและไฟเบอร์ ซึ่งสร้างด้วยงบประมาณกว่า 500 ล้านบาท โดยเป็นเงินสนับสนุนของไอ-โมบายและบางส่วนของนายเนวิน ชิดชอบ และจัดเป็นสนามฟุตบอลที่ได้มาตรฐานแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่ไม่มีลู่วิ่งคั่นสนามและผ่านมาตรฐานฟีฟ่า , เอเอฟซี และ เอเอฟเอฟ และยังผ่านมาตรฐานระดับเอคลาสสเตเดียมจากเอเอฟซี และยังผ่านมาตรฐานระดับเวิลด์คลาสจากฟีฟ่า และยังได้บันทึกลงกินเนสบุ๊คว่าเป็นสนามฟุตบอลในระดับฟีฟ่าแห่งเดียวในโลกที่ใช้เวลาก่อสร้างน้อยที่สุดในโลกคือ 256 วัน
สนามนี้มีทั้งหมด 4 ชั้น โดยชั้นที่ 1 เป็น สำนักงานห้องแถลงข่าว,ห้องสื่อมวลชน,ร้ายขายสินค้าที่ระลึก,ห้องนักกีฬาทีมเหย้า-เยือน,ห้องพักผู้ตัดสิน,ห้องปฐมพยาบาล และ ห้องประชุม ชั้นที่ 2 จะเป็นห้องจัดเลี้ยงใหญ่จำนวน 400 ที่ นั่ง ชั้นที่ 3 เป็น ห้องวีไอพี 6 ห้อง และ ห้องจัดเลี้ยง 1 ห้อง และชั้นที่ 4 มี ห้องวีไอพีจำนวน 15 ห้อง สนามแห่งนี้ยังมีการติดตั้งไฟส่องสว่างของฟิลิปส์อย่างมาตรฐานจะมีความสว่างของไฟอยู่ที่ 1,500 ลักซ์ โดยในส่วนอัฒจรรย์ฝั่งกองเชียร์นั้นมีเก้าอี้ที่นั่งเชียร์เป็นสีน้ำเงินเกือบหมดแต่จะใช้เก้าอี้สีขาวตรงที่มีคำว่า ธันเดอร์คาสเซิล และ บุรีรัมย์มีหัวหน้ากองเชียร์คือ นางกรุณา ชิดชอบ เป็นแกนนำหลักในการเชียร์