สวอนซี ซิตี้ โปรแกรมบอล

อีเอฟแอลแชมเปียนชิป
สวอนซี ซิตี้
มิลล์วอลล์
-
-
นอริช ซิตี้
สวอนซี ซิตี้
-
-
ฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์
สวอนซี ซิตี้
-
-
สวอนซี ซิตี้ 3
ร็อตเธอร์แฮม ยูไนเต็ด 2
1
0
ชนะ
สวอนซี ซิตี้ 3
สโต๊ค ซิตี้ 3
3
0
ชนะ
มิดเดิลสโบรห์ 2
สวอนซี ซิตี้ 2
2
0
แพ้
สวอนซี ซิตี้
ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส
0
1
แพ้
เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ 1
สวอนซี ซิตี้ 1
1
1
เสมอ
สวอนซี ซิตี้ 2
คาร์ดิฟฟ์ซิตี้ 1
2
0
ชนะ
บริสตอล ซิตี้ 2
สวอนซี ซิตี้ 1
1
0
แพ้
แสดงการแข่งขันที่จบไปเพิ่มเติม
ตาราง
อันดับ ทีม นัด ชนะ เสมอ แพ้ แต้ม
13 ซันเดอร์แลนด์ 43 16 8 19 56
14 สวอนซี ซิตี้ 43 14 11 18 53
15 วัดฟอร์ด 43 12 16 15 52
ท็อป ดาวซัลโว
อันดับ ผู้เล่น ยิงเข้าประตู (จุด)
1 ออสการ์ โลว์ 8(2)
2 เจอร์รี เยตส์ 7
3 เลียม คัลเลน 7
ข้อมูล
  • เมือง: Swansea
  • สนามบอล: Liberty Stadium
  • ความจุ: 20532
  • โค้ช: ลุค วิลเลี่ยมส์
  • เวลาก่อตั้ง: 1912
  • อายุเฉลี่ย: 25.1
แนะนำทีม

สโมสรฟุตบอลสวอนซีซิตี (อังกฤษ: Swansea City Association Football Club; เวลส์: Clwb Pêl-droed Dinas Abertawe) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพจากเมืองสวอนซี ของเวลส์ แต่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ โดยแม้สวอนซีจะเป็นสโมสรของเวลส์ แต่เมื่อลงเล่นในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ จึงถือเป็นตัวแทนของอังกฤษในการแข่งขันฟุตบอลยุโรปรายการต่างๆ

 

สโมสรฟุตบอลสวอนซีซิตี
ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1912 ในชื่อสโมสร สวอนซี ทาวน์ ร่วมแข่งในฟุตบอลลีกในปี ค.ศ. 1921 และได้เปลี่ยนชื่อสโมสรเป็น สวอนซี ซิตี ในปี ค.ศ.1969 เพื่อตอบสนองต่อการยกระดับฐานะของเมืองสวอนซี
ต่อมาสโมสรเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดของอังกฤษ ได้เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1981 ภายใต้การคุมทีมของจอห์น โตแช็ค โดยในฤดูกาล 1981–1982 อันเป็นฤดูกาลแรกในลีกสูงสุด สโมสรสร้างผลงานอย่างน่าทึ่งด้วยการคว้าอันดับที่ 6 โดยมีคะแนนตามหลังสโมสรใหญ่อย่างอาร์เซนอลเพียงแค่ 2 คะแนน และได้ไปแข่งยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพในฤดูกาลต่อมา แต่กลับสร้างผลงานย่ำแย่ด้วยการตกรอบแรก และถึงขนาดตกชั้นจากลีกสูงสุดเมื่อจบฤดูกาล 1982–1983
หลังตกชั้นจากลีกสูงสุดในปี ค.ศ.1983 สโมสรฟุตบอลสวอนซีซิตี มีผลงานตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง และตกชั้นอีกหลายครั้งจนถึงขนาดลงไปเล่นในระดับดิวิชัน 4 (ฟุตบอลลีกทูในปัจจุบัน) โดยในการแข่งขันฤดูกาล 2002–03 สวอนซีซิตี ต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นอย่างหนัก และเกือบจะต้องร่วงลงสู่ลีกคอนเฟเรนซ์ พรีเมียร์หรือลีกฟุตบอลกึ่งสมัครเล่น (ปัจจุบันคือเนชันนัลลีก) เมื่อจบฤดูกาลด้วยการมีคะแนนเหนือโซนตกชั้นเพียง 1 คะแนน

 

ในฤดูกาล 2010–11 สโมสรได้กลับขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุดอีกครั้งในรอบ 30 ปี โดยเป็นการลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรก หลังจากชนะการแข่งขันในรอบเพลย์ออฟ ฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป และเป็นสโมสรจากเวลส์สโมสรแรกที่ได้เล่นในพรีเมียร์ลีก โดยเป็นสโมสรลำดับที่ 45 นับตั้งแต่มีการจัดการแข่งขันในปี ค.ศ. 1992

 

ในฤดูกาล 2012–2013 สโมสรสวอนซีซิตี สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกคัพได้สำเร็จ ทำให้ได้สิทธิ์แข่งขันฟุตบอลยุโรปในรายการยูฟ่า ยูโรปาลีก โดยในยูโรปาลีก 2013–2014 สวอนซี สามารถเข้าถึงรอบ 32 ทีมสุดท้าย ก่อนจะตกรอบด้วยการแพ้สโมสรนาโปลี

 

สำหรับเรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้จากระดับดิวิชัน 4 (เดิม) ที่เกือบจะต้องตกชั้นลงไปสู่ลีกสมัครเล่น ก่อนที่จะได้กลับคืนสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง และได้ไปแข่งฟุตบอลยุโรปของสโมสร ได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Jack to a King – The Swansea Story ในปี ค.ศ. 2014
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 สโมสรใช้ลิเบอร์ตีสเตเดียมเป็นสนามเหย้าของสโมสร โดยแบ่งใช้สนามกับสโมสรรักบี้ ออสปรีส์รักบียูเนียนคลับ โดยที่ก่อนหน้านั้นพวกเขาใช้สนามเวตช์ฟีลด์เป็นสนามเหย้า