อันดับ | ทีม | นัด | ชนะ | เสมอ | แพ้ | แต้ม |
---|---|---|---|---|---|---|
16 | เซบีย่า | 29 | 6 | 10 | 13 | 28 |
17 | เซลต้า บีโก้ | 29 | 6 | 9 | 14 | 27 |
18 | กาดิซ | 29 | 3 | 13 | 13 | 22 |
ลาลิกา | |||
---|---|---|---|
เซลต้า บีโก้
ลาส พัลมาส
|
-
-
|
||
เรอัล เบติส
เซลต้า บีโก้
|
-
-
|
||
เซลต้า บีโก้
ราโย่ บาเยกาโน่
|
-
-
|
เซบีย่า
4
เซลต้า บีโก้
|
1
2
|
ชนะ
|
|
เรอัล มาดริด
2
เซลต้า บีโก้
3
|
4
0
|
แพ้
|
|
เซลต้า บีโก้
1
อัลเมเรีย
1 2
|
1
0
|
ชนะ
|
|
กาดิซ
2
เซลต้า บีโก้
3
|
2
2
|
เสมอ
|
|
เซลต้า บีโก้
1
บาร์เซโลน่า
4
|
1
2
|
แพ้
|
|
เกตาเฟ่
1
เซลต้า บีโก้
2
|
3
2
|
แพ้
|
|
โอซาซูน่า
2
เซลต้า บีโก้
|
0
3
|
ชนะ
|
อันดับ | ผู้เล่น | ยิงเข้าประตู (จุด) |
---|---|---|
1 | จอร์เกน สแตรน ลาร์เซน | 10 |
2 | ยาโก้ อัสปาส | 5(1) |
3 | Anastasios Douvikas | 4 |
- เมือง: VIGO
- สนามบอล: Estadio Municipal de Balaidos
- ความจุ: 31800
- โค้ช: Claudio Giraldez
- เวลาก่อตั้ง: 23/08/1923
- อายุเฉลี่ย: 26.3
ราชสโมสรเคลต์แห่งบีโก (สเปน: Real Club Celta de Vigo) หรือที่เรียกว่า เซลตาเดบีโก, เซลตาบีโก และ เซลตา เป็นสโมสรฟุตบอลสเปน ตั้งอยู่ในเมืองบีโก แคว้นกาลิเซีย ประเทศสเปน ปัจจุบันลงแข่งขันในลาลีกา โดยก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2466 จากการรวมตัวกันของเรอัลบีโกเอสปอร์ตินกับเรอัลฟอร์ตูนาฟุตบอลกลุบ โดยมีฉายาว่า "โอสเซเลเตส" (เหล่าชุดฟ้า) ซึ่งมีชุดเหย้าเป็นเสื้อสีฟ้าและกางเกงสีขาว มีสนามเหย้าชื่อบาลาอีโดส สามารถจุผู้ชมได้ 29,000 คน ชื่อสโมสรมีที่มาจากชาวเคลต์ซึ่งเคยอาศัยอยู่ในแถบพื้นที่นี้ เซลตาเดบีโกมีเดปอร์ตีโบเดลาโกรูญาเป็นทีมคู่แข่งในการแข่งขันกาลิเซียนดาร์บี
อย่างไรก็ตามในการลงเล่นในลาลีกาหลายฤดูกาล เซลตาไม่เคยได้แชมป์โกปาเดลเรย์ แต่สามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ถึง 3 ครั้ง หนึ่งในฤดูกาลที่ดีที่สุดคือ 1970–1971 พวกเขาจบฤดูกาลด้วยการไม่แพ้ใครในบ้านและเป็นที่รู้จักในชื่อ "ผู้ฆ่ายักษ์" (giant-killers) เซลตาจบด้วยอันดับที่ 6 ในฤดูกาลนั้นและได้สิทธิ์เข้าไปแข่งขันในยูฟ่าคัพเป็นครั้งแรก เมื่อไม่นานมานี้ พวกเขาได้จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 4 ในฤดูกาล 2002–2003 ได้สิทธิ์เข้าแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และตกรอบด้วยการแพ้อาร์เซนอลในรอบ 16 ทีม
มูลนิธิ
เรอัลกลุบเซลตาเดบีโกได้ก่อตั้งขึ้นจากความมุ่งมั่นของบีโกที่ต้องการจะประสบความสำเร็จในการแข่งขันระดับประเทศซึ่งในขณะนั้นมีชาวบาสก์เป็นคู่แข่งในการแข่งขันฟุตบอลสเปนมาโดยตลอด ทำให้เกิดแนวคิดที่จะรวมทั้งสองทีมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างสโมสรที่มีขุมพลังมากพอที่จะแข่งขันในระดับประเทศ โดยผู้นำในการเคลื่อนไหวคือ มานูเอล เด กัสโตร นักเขียนหนังสือพิมพ์กีฬา ฟาโรเดบีโก ในปี พ.ศ. 2458 เขาได้เริ่มเขียนบทความว่าด้วยความจำเป็นนี้โดยมีคำขวัญว่า "โตโดปอร์อีปาราบีโก" (ทุกอย่างเพื่อบีโกและสำหรับบีโก) ซึ่งในที่สุดก็ได้รับการสนับสนุนจากผู้จัดการทีมของเรอัลบีโกเอสปอร์ตินและเรอัลกลุบฟอร์ตูนาเดบีโก และได้รับการสนับสนุนโดยเอกฉันท์เมื่อเด กัสโตร นำเสนอแนวคิดดังกล่าวด้วยตนเองในที่ประชุมราชสหพันธ์ฟุตบอลสเปน ณ กรุงมาดริด เมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2466
ในวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2466 ในการประชุมสามัญประจำปีของบีโกและฟอร์ตูนาซึ่งจัดขึ้นที่โรงละครโอเดออนและโรงแรมโมเดร์โนตามลำดับ มีการประกาศว่าจะยุบรวมสโมสรทั้งสองเข้าด้วยกัน ทำให้ "สโมสรแห่งกาลิเซีย" ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยในการประชุมนั้นมีการยืนยันที่จะจัดตั้งสโมสรใหม่ในวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2466 สมาชิกได้เสนอชื่อทีมเข้ามามากมายเช่น "เรอัลอูนีออนเดบีโก", "กลุบกาลิเซีย", "เรอัลอัตลันติก", "เบรโอกัน" และ "เรอัลกลุบโอลิมปีโก" โดยชื่อสุดท้ายเป็นชื่อที่ได้รับเสียงสนับสนุนมากที่สุด แต่ในที่สุดแล้วก็ได้ตัดสินใจใช้ชื่อ "เรอัลกลุบเซลตา" ซึ่งเป็นชื่อกลุ่มชาติพันธุ์มีความเชื่อมโยงกับแคว้นกาลิเซีย (ดูเพิ่มที่ ชาวเคลต์) โดยมีประธานสโมสรคนแรกคือ มานูเอล บาร์เซนา เด อันเดรส และในการประชุมได้ตัดสินใจส่งรายชื่อผู้เล่นจำนวน 64 คน รวมไปถึงผู้เล่นของฟอร์ตูนาและบีโกด้วย'font>
ยูโรเซลตา
ในช่วงปี พ.ศ. 2540 จนถึง พ.ศ. 2546 เป็นช่วงที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร ด้วยการทำผลงานที่ยอดเยี่ยมในลาลีกา ฤดูกาล 2002–2003 ด้วยการจบด้วยอันดับที่ 4 และได้สิทธิ์เข้าไปเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก โดยได้รับการขนานนามจากสื่อสเปนว่า "เอวโรเซลตา" ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 สหพันธ์ประวัติศาสตร์และสถิติฟุตบอลระหว่างประเทศ ได้ประกาศว่าเซลตาเป็นสโมสรที่ดีที่สุดในโลกประจำเดือน ในยุคที่ผู้เล่นสเปนสามารถทำผลงานได้ดี รวมไปถึงผู้เล่นต่างประเทศก็ทำผลงานได้ดีเช่นกัน